วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

คนไทยหัวใจสีเขียว (สิ่งแวดล้อม )


เหตุผลที่ทำโครงงานเรื่องนี้
กว่าพวกเราจะมีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ได้ก็จะต้องมีสัตว์ป่าและพืช พันธุ์นานาชนิด และธรรมชาติจะสวยงามได้ก็ต้องใช้เวลานานนับปีมาก ปัจจุบันสิ่งเหล่านนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมากทั้งในด้านเสริมสร้างและ ทำลายไปพร้อมๆกัน ปัญหาส่วนใหญ่ก็เกิดจากมนุษย์  มนุษย์เป็นผู้ทำลายทำให้ทรัพยากรมนุษย์เกิดภาวะเสื่อมโทรมจนกลายเป็นปัญหา วิกฤตในทุกวันนี้
  ประโยชน์
คนไทยเราจะได้มีพฤติกรรมสีเขียว ร่วมสร้างจิตสำนึก มมีส่วนร่วมในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
แนวทางที่สามารถทำได้ในทุกๆวัน คือ ลดและคัดแยกขยะโดยการลดการใช้ซ้ำ นำกลับมาใช้ใหม่

สิ่งแวดล้อมที่เป็นภัย

สิ่งแวดล้อมที่เป็นภัย
ปัจจุบันพบว่าสิ่งที่เป็นอันตรายต่อเด็กมีมาก ทั้งอยู่ในบ้านและนอกบ้าน สำหรับอุบัติเหตุที่มีผู้สียชีวิตแต่ละรายก็จะมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายร้อยคนจากอุบัติเหตุอื่น ๆ มากบ้างน้อยบ้าง การขาดสนามเด็กเล่นจะทำให้โอกาสประสบอุบัติเหตุมีมากขึ้น เพราะเด็กอาจไปเล่นตามถนนหรือเขตก่อสร้าง


การศึกษา
การศึกษาที่เหมาะสมจะทำให้เด็กสามารถดึงตัวเองให้พ้นจากสภาพทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมเดิม ๆ ได้ และยังจะเป็นพลังสำคัญที่จะทำให้เด็กรู้จักคุณค่าด้านสิ่งแวดล้อม แต่กลับเป็นว่าเด็กโตขึ้น เด็กกลับได้รับการศึกษาน้อยลง ในประเทศที่มีรายได้ต่ำ มีเพียงเด็กผู้ชายร้อยละ 52 และเด็กผู้หญิงร้อยละ 39 ที่ไปโรงเรียนประถม และเพียงร้อยละ 18 ของเด็กชาย และร้อยละ 8 ของเด็กหญิงที่ไปโรงเรียนมัธยม (UNICEF, 1989d)




ในประเทศกำลังพัฒนา เด็กอายุระหว่าง 7 - 10 ปี ไม่ได้เรียนการอ่าน การคำนวณอย่างง่าย ๆ ในขณะที่เด็กเกือบทุกคนในประเทศที่มีรายได้ขนาดกลาง และในประเทศอุตสาหกรรมต่างเข้าเรียนประถม และเข้าเรียนต่อในระดับมัธยม นอกจากการศึกษาแล้วสภาพแวดล้อมของเด็ก ๆ ยังมีส่วนสำคัญต่อความสามารถในการเรียนรู้อีกด้วย
ในบางประเทศที่มีประเพณีความเชื่อบางอย่าง ทำให้เด็กหญิงต้องหยุดไปโรงเรียนมากกว่าเด็กผู้ชาย เพราะเด็กหญิงต้องทำงานบ้าน การแบ่งแยกเพศมีไปถึงการเลี้ยงดูทารกหญิงหรือชายด้วย ในบางภูมิภาค ทำให้เด็กผู้หญิงได้รับอาหาร และการดูแลทางด้านอนามัยน้อยกว่าเด็กผู้ชาย และทำให้เด็กผู้หญิงมีอัตราการป่วยและเสี่ยงต่อชีวิตสูง หลักฐานของการแบ่งแยกดังกล่าวปรากฏชัดในเอเซียใต้และตะวันตก และในอัฟริกาเหนือ ในประเทศอย่างเช่น อัลจีเรีย บังคลาเทศ อียิปต์ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย และในปากีสถานะจะเห็นความเกี่ยวพันกันระหว่างการแบ่งแยกทางเพศกับอัตราการตายที่สูงในเด็กผู้หญิง (Chandler, 1986)


การสูบบุหรี่และยาเสพติด
การสูบบุหรี่เป็นโรคระบาดที่มีเพิ่มขึ้นปีละร้อยละ 2.1 ทุกปี และมีเด็กรวมอยู่ในจำนวนนี้ด้วย (Chandler, 1986) ระหว่างปี 1975-1985 มีการสูบบุหรี่เพิ่มมากขึ้นใน 63 ประเทศ จะมีอยู่ไม่กี่ประเทศที่อัตราการสูบบุหรี่ลดลง ในสหราชอาณาจักรจำนวนผู้ชายที่สูบบุหรี่ลดลงกว่าร้อยละ 25 ในเนเธอร์แลนด์และสหรัฐฯ ลดลงหนึ่งในสาม ในซิมบับเวลดลงร้อยละ 35

แต่การสูบบุหรี่ในกลุ่มเยาวชนกลับทรุดหนักลง เด็กส่วนใหญ่เริ่มสูบบุหรี่เพราะพ่อแม่สูบหรือเพราะเพื่อสูบ
- ในสหราชอาณาจักร ร้อยละ 6.9 ของเด็กผู้ชาย และ 2.6 ของเด็กผู้หญิงอายุระหว่าง 10-11 ปี สูบบุหรี่ประจำ
- ในเบลเยียม เด็กที่สูบบุหรี่เพิ่มจากร้อยละ 11 ในหมู่เด็กอายุ 11 ขวบ เป็นร้อยละ 50 ในเด็กอายุ 15 ปี
- ในฝรั่งเศส ร้อยละ 30 ของเด็กอายุระหว่าง 10-17 ปี สูบบุหรี่ประจำ
- ในเยอรมันตะวันตก ร้อยละ 36 ของเด็กอายุระหว่าง 10-12 สูบบุหรี่ประจำ
- ในอิตาลี ร้อยละ 60 ของเด็กผู้ชายสูบบุหรี่กันตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 15
อัตราส่วนเด็กที่สูบบุหรี่ในประเทศกำลังพัฒนาแตกต่างกันไปตามประเทศโดย ในเขตเมืองจะสูงกว่าในเขตชนบท

ในบางประเทศการสูบบุหรี่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้ยาเพิ่มมากขึ้น กระท่อมเป็นยาเสพติดที่ใช้กันมากที่สุดในโลก เยาวชนในเขตเมืองและกึ่งเมืองที่สูบบุหรี่จะอยู่ในกลุ่มที่เสี่ยงอันตรายมากเป็นพิเศษ และการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่า การใช้ยาเสพติดและการติดยาเสพติดมีเพิ่มมากขึ้นในประเทศส่วนใหญ่ (WHO, 1987a)
ประมาณว่ามีผู้ติดยาอยู่ประมาณ 48 ล้านคนทั่วโลก และในจำนวนเหล่านี้มีอยู่ไม่น้อยที่เป็นเด็กอายุระหว่าง 10-15 ปี มีการใช้แอมพิตามีน บาบิตูเรต และยาระงับประสาทกันมาก และใช้กันเพิ่มมากขึ้นด้วย เพราะหาซื้อได้ทั้งโดยถูกต้องและไม่ถูกต้องตามกฏหมาย การสูดดมสารระเหย เช่น กาว ทินเนอร์ ก็กำลังกระจายไปในประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะในหมู่เยาวชนในเขตเมือง

สิ่งแวดล้อมศิลปกรรม

สิ่งแวดล้อมศิลปกรรม

ในขณะที่ประเทศไทยกำลังก้าวหน้าไปด้วยการพัฒนาในรูปแบบต่าง ๆ อย่างรวดเร็วนั้น ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ว่าหลักฐานทางโบราณคดี ที่มีความสำคัญต่อประวัติความเป็นมาของชาติไทย อันยาวนาน ได้ถูกบุกรุกทำลายให้เสื่อมสลายไป ทั้งโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้คนพลเมืองในท้องถิ่นของนักบริหาร และนักพัฒนาทางอุตสาหกรรมทั้งหลายอยู่เสมอ ๆ ข่าวการลักลอบตัดเศียรพระส่งออกขายต่างประเทศก็ดี การลักลอบขุดค้นโบราณวัตถุขายให้แก่นักเล่นของเก่า ตลอดจนการทำลายลงด้วยโครงการพัฒนาต่าง ๆ ปีหนึ่ง ๆ หลักฐานทางโบราณคดีได้สูญเสียไปเป็นจำนวนมากมาย
สาเหตุสำคัญที่สุดของการทำลายโบราณวัตถุโบราณสถาน ก็สืบเนื่องจากการขาดการปลูกฝังสำนึกให้รู้ถึงคุณค่าของเด็กตั้งแต่ในเยาว์วัย และเป็นเพราะว่า หลักฐานทางโบราณคดีบนผืนดิน ที่เป็นประเทศไทยมีมากมายจนทำให้การลักลอบขุด สามารถทำรายได้ให้จนเป็นอาชีพได้นั่นเอง
ความมากมายของหลักฐานทางโบราณคดีที่มีอยู่บนแผ่นดินประเทศไทยนั้น มีความหมายต่อผู้คนในประเทศอย่างไร ?
จากการสำรวจและค้นคว้าทางโบราณคดีได้พบว่า บริเวณที่เป็นที่ตั้งของประเทศไทยในปัจจุบันนี้ ได้มีหลักฐานที่แสดงถึงการตั้งถิ่นฐานของมนุษยชาติกระจายอยู่ทั่วไปที่นับเวลาย้อนขึ้นไปนับพัน ๆ ปี และจากหลักฐานดังกล่าวนี้ได้แสดงให้เห็นว่า ณ ที่นี้ได้เคยเป็นแหล่งกำเนิดอารยธรรมของมนุษยชาติของโลกแห่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจจากภาพถ่ายทางอากาศ จากการสำรวจทางภาคพื้นดิน ตลอดจนการทำการขุดค้นในท้องที่ต่าง ๆ นักโบราณคดีได้พบหลักฐานของการอาศัยอยู่ของมนุษย์ที่ได้สืบทอดต่อกันลงมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน ตั้งแต่ยุคแรกของโลกมาจนถึงปัจจุบันนี้
ในการศึกษาเรื่องราวทางโบราณคดีนั้น นักโบราณคดีได้แบ่งวิธีการตามรูปแบบของการดำรงชีพของการดำรงชีพของมนุษย์ออกเป็น 2 สมัยด้วยกัน คือ การดำรงอยู่ของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์และการดำรงอยู่ของมนุษย์สมัยประวัติศาสตร์
ที่เรียกว่าสมัยก่อนประวัตินั้น เป็นยุคสมัยที่มนุษย์ยังไม่รู้จักประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นใช้เป็นสื่อความหมาย ดังนั้น หลักฐานทั้งหมดที่ใช้ในการศึกษาก็คือ สิ่งของเครื่องใช้ที่เขาประดิษฐ์ขึ้นที่ ๆ เขาเคยอาศัยอยู่ ตลอดจนจากโครงกระดูกของเขาเอง
วัฒนธรรมในสมัยก่อนประวัติศาสตร์นั้น ยังแบ่งย่อยออกเป็น 2 สมัยด้วยกัน คือ ยุคหิน และยุคโลหะ
ยุคหินก็คือ ยุคที่มนุษย์นำเอาหินมาทำเป็นเครื่องมือ เครื่องใช้ อาทิ ขวานหิน ขวานกระเทาะ โดยเริ่มตั้งแต่กระเทาะอย่างหยาบ ๆ จนกระทั่งรู้จักประดิษฐ์อย่างประณีต มีการขัดดูให้แหลมคม ในตอนปลายของยุคหินก่อนที่จะเริ่มนำเอาโลหะมาใช้นั้น มนุษย์ได้เริ่มรู้จักทำภาชนะดินเผาขึ้นใช้ เริ่มอาศัยอยู่เป็นหลักแหล่งแทนการเร่ร่อนและอาศัยอยู่ตามถ้ำและเพิงผา รู้จักการเพาะปลูกและ เลี้ยงสัตว์ทั้งเพื่อใช้ทำเป็นอาหารและใช้แรงงาน สัตว์ที่มนุษย์นำมาเลี้ยงเป็นครั้งแรกสุดได้แก่ สุนัข ต่อมาก็มีวัว ควายและสัตว์อื่น ๆ สะสมอาหาร สร้างระบบของสังคมขึ้น แหล่งอารยธรรมยุคใหม่ที่เจริญมากที่สุดของโลก อยู่ในบริเวณตะวันออกกลาง บริเวณลุ่มแม่น้ำไนล์ ลุ่มแม่น้ำไทกริส และยูเฟรติส ซึ่งได้เป็นสิ่งที่ถ่ายทอดอารยธรรมให้กับซีกโลกตะวันตก
ส่วนยุคโลหะ เริ่มขึ้นเมื่อมนุษย์รู้จักนำเอาแร่มาใช้ แร่ชนิดที่ใช้คือทองแดง รู้จักแยกแร่ทองแดงออกจากเนื้อหิน ต่อมาคนรู้การหลอมโลหะ 2 ชนิด ผสมกันเพื่อให้ได้โลหะชนิดใหม่คุณสมบัติดีกว่าเดิม อาทิ การหลอมทองแดง และดีบุกเข้ากันเป็นเนื้อโลหะชนิดใหม่เรียกว่า สำริด มนุษย์สมัยยุคโลหะ การประดิษฐ์เครื่องใช้ไม้สอยขึ้นมามาก มีลักษณะทางสังคมความเป็นอยู่ที่ซับซ้อนมากขึ้น มีขนบประเพณีมากขึ้นและแหล่งสำคัญของยุคโลหะ ได้แก่ บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะที่บ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี
เมื่อมนุษย์ได้รู้จักการคิดค้นประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นใช้นั้น ก็เรียกว่าสมัยประวัติศาสตร์ การศึกษาเรื่องราวของกลุ่มชนในยุคนี้ทำได้ง่ายกว่าในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ เพราะมีทั้งเอกสารที่ผู้คนในแต่ละยุคสมัยได้บันทึกขึ้นไว้ตลอดจนมีสิ่งก่อสร้างที่มีรูปแบบของยุคสมัยไว้อย่างชัดเจน จากการศึกษาลักษณะของศิลปเท่าที่พบในบริเวณพื้นที่ประเทศไทยนั้น นักโบราณคดีได้แบ่งกลุ่มชนที่อาศัยอยู่ออกเป็น 9 สมัยด้วยกันคือ ศิลปฟูนันมีศูนย์กลางอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ สมัยทวาราวดีมีศูนย์กลางอยู่ในภาคกลาง สมัยศรีวิชัยมีศูนย์กลางทางภาคใต้ สมัยลพบุรีมีศูนย์กลางอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมัยเชียงแสนมีศูนย์กลางอยู่ทางภาคเหนือ สมัยสุโขทัยมีศูนย์กลางอยู่ทางภาคเหนือ สมัยอู่ทองมีศูนย์กลางทางภาคกลาง และ 2 สมัยสุดท้ายคือ อยุธยาและรัตนโกสินทร์
แต่สภาพปัญหาที่ปรากฎอยู่ในปัจจุบันก็คือแหล่งศิลปกรรมทั้งหลายของประเทศ อาทิ แหล่งโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ โบราณสถาน ศาสนสถาน กำแพงเมืองและร่องรอยของเมืองโบราณได้รับความกระทบกระเทือนอย่างมาก โดยมีสาเหตุจากความเสื่อมโทรมของศิลปกรรม และจากสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบศิลปกรรมนั้น
วัดช้างลอบ จ.กำแพงเพชร
ปราสาทเมืองต่ำ จ.บุรีรัมย์
ปัญหาความเสื่อมโทรมของศิลปกรรมทั่วทุกภาคของประเทศเป็นสิ่งที่สะสมกันมานาน ซึ่งมีสาเหตุมาจากความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมเกือบทั้งสิ้น ดังนั้น การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจึงเป็นการแก้ปัญหาของสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อศิลปกรรมเป็นส่วนใหญ่ สาเหตุจากความเสื่อมโทรมโดยสรุปมี 2 ประการคือ

วัดพระนอน จ.กำแพงเพชร
1. ความเสื่อมโทรมที่เกิดขึ้นต่อตัวศิลปกรรม เป็นไปตามกาลเวลาและสภาพแวดล้อม ตามธรรมชาติ และจากการกระทำของมนุษย์ โดยเจตนาหรือโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์เพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือเพื่อกิจกรรมอื่น ๆ ในท้องถิ่นนั้น เช่น การลักลอบขุดเจาะการรื้อทำลายโยกย้าย ลักขโมยและการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของศิลปกรรม เป็นต้น
2. ความเสื่อมโทรมที่เกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมศิลปกรรมจากการกระทำของมนุษย์ทางอ้อม และส่งผลกระทบต่อศิลปกรรมนั้น ได้แก่ การใช้ที่ดินรอบบริเวณเป็นที่อยู่อาศัยและทำประโยชน์อย่างอื่น การสั่นสะเทือนจากการก่อสร้างอาคารหรือรถบรรทุกขนาดใหญ่ ทำความเสียหายให้แก่ตัวโบราณสถานและศิลปกรรม การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมหรือภูมิสถาปัตยกรรมของโบราณสถาน ก่อให้เกิดทัศนวิสัยไม่ดี ตลอดจนการพัฒนาสร้างบริการสาธารณูปโภคต่าง ๆ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมศิลปกรรม
1. กำหนดให้มีการดำเนินงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมศิลปกรรมในระดับท้องถิ่นทั่วประเทศ
2. กำหนดให้มีการประกาศเขตอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมศิลปกรรม และให้มีการศึกษาผล กระทบสิ่งแวดล้อมด้านนี้ ในโครงการพัฒนาต่าง ๆ ที่มีขึ้นในบริเวณที่กำหนดไว้
3. กำหนดให้มีศูนย์ประสานงานข้อมูล เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแหล่งชุมชนโบราณ
4. กำหนดให้มีการสัมมนาเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลความรู้ทางวิชาการ และ หลักวิชาเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมศิลปกรรมในทุกระดับ
การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมศิลปกรรมเป็นการดำเนินงานที่ต้องอาศัยระยะเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการปลูกฝังความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนส่วนใหญ่ ให้เกิดความรู้สึกรักและหวงแหนในมรดกที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์ไว้ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมศิลปกรรมจึงมิใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนจะต้องรับผิดชอบและที่สำคัญก็คือ ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง และหน่วยงานของรัฐกับประชาชนเป็นที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบันวิทยาการสมัยใหม่ได้มีบทบาทเข้าไปเสริมแต่ง เปลี่ยนแปลงบริเวณแหล่งศิลปกรรมมากยิ่งขึ้นและเป็นไปโดยรวดเร็ว จึงอาจจะกล่าวได้ว่า ถ้าไม่มีมาตรการในการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมศิลปกรรมแล้ว เชื่อแน่ว่าในอนาคตนี้แหล่งอันเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าทางสุนทรียภาพและสำคัญยิ่งของชาติ จะสูญสิ้นไปในที่สุด ดังนั้น การดำเนินงานของสำนักงานฯ จึงเป็นความพยายามอย่างยิ่งยวดในการสร้างสามัญสำนึกให้กับชนในชาติ ให้ตระหนักถึงคุณค่าความสำคัญและมีความรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมศิลปกรรมเป็นพื้นฐาน รวมทั้งส่งเสริมให้ท้องถิ่นมีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลรักษา ป้องกัน และให้ความรู้แก่คนในท้องถิ่นนั้น เพื่อจะได้มีความรู้สึกหวงแหนสมบัติของท้องถิ่น โดยสำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เป็นหน่วยงานในการสนับสนุนทางวิชาการส่งเสริมประสานงานในด้านนโยบาย มาตรการ และแนวทางปฏิบัติ ติดตามวิเคราะห์การปฏิบัติและประสิทธิผลเหมาะสมกับสถานการณ์ของชาติต่อไป

สิ่งแวดล้อมชุมชน

สิ่งแวดล้อมในชุมชน
เมื่อมนุษย์มีความสัมพันธ์กันและเกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน มนุษย์ก็จะรวมตัวกันอยู่เป็นกลุ่ม สร้างบ้านเรือนแหล่งที่อยู่อาศัย ทำไร่ทำนาเลี้ยงสัตว์ มีกิจกรรมร่วมกัน และมีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน การรวมตัวกันอยู่เป็นกลุ่มในลักษณะนี้เรียกว่าชุมนุมชน
ภายหลังจากที่มนุษย์รวมตัวกันอยู่เป็นกลุ่ม โดยเลือกสถานที่ตั้งถิ่นฐานที่อยู่อาศัยแล้ว มนุษย์ก็ได้เริ่มจัดการกับสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ตัวมนุษย์ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการดำรงชีพ ความสะดวกสบาย ในความเป็นอยู่และความปลอดภัยในชีวิต สิ่งรอบ ๆ ตัวที่มนุษย์เข้าไปจัดการนั้น บางครั้งมนุษย์แสวงหามาเอง บางครั้งสร้างให้มันเกิดขึ้น และบางครั้งก็ตกแต่ง ดัดแปลงปรับปรุง และใช้ธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่เองนั้น ในลักษณะที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของชุมชน
สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ล้อมรอบตัวมนุษย์ภายในบริเวณชุมนุมชนมีทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาไว้ในชุมชน รวมเรียกกันว่า "สิ่งแวดล้อมชุมชน" อาจจะเป็นสิ่งที่มีชีวิตหรือไม่มีชีวิตก็ได้ อาจจะเป็นสิ่งที่มีตัวตนหรือไม่มีตัวตนก็ได้แต่ทุกอย่างจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องต่อเนื่องกันเป็นวงจร
สิ่งแวดล้อมในชุมนุมอาจแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ
1. สิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ได้แก่ อากาศ แม่น้ำ ลำคลอง ทะเลสาบ มหาสมุทร พื้น ดิน แร่ธาตุ ภูเขา ป่าไม้และสัตว์อื่น ๆ เป็นต้น
2. สิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้น ได้แก่ บ้านเรือน โรงเรียน ถนน รถยนต์ เขื่อนเก็บน้ำ ตลอด จนขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรม ระบบเศรษฐกิจและสังคมด้วย
สิ่งแวดล้อมเหล่านี้ประกอบกันขึ้นเป็นชุมชน โดยมีขนบธรรมเนียบประเพณี ระบบเศรษฐกิจและสังคมที่มนุษย์สร้างขึ้นและข้อจำกัดทางธรรมชาติเป็นกฎเกณฑ์และเป็นหลักสำหรับการอยู่ร่วมกันเป็นชุมชน เพื่อให้เกิดการดำรงชีวิตอย่างผาสุกและเสริมสร้างคุณภาพแห่งชีวิต
ในแต่ละชุมชนก็จะมีสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศ ดินฟ้าอากาศ ทัศนคติ และนิสัยใจคอของผู้คนที่อยู่อาศัยในชุมชนด้วย เช่น บางแห่งอาจอุดมสมบูรณ์ด้วยป่าไม้ บางแห่งอาจมีความกว้างใหญ่ไพศาลของทะเลและบางแห่งก็สลับซับซ้อนด้วยทิวเทือกเขา มีภูเขามาก สิ่งแวดล้อมในบางแห่งเหมาะที่จะใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยว บางแห่งก็เหมาะที่จะใช้ทำการเกษตรกรรม เป็นต้น ซึ่งแต่ละชุมชนต่างได้รับประโยชน์จากสิ่งแวดล้อมแตกต่างกันไป ตามลักษณะของสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ และโดยความเป็นจริงแล้วสิ่งแวดล้อมได้ให้ประโยชน์แก่คนในชุมชนนั้นอย่างมากมายมหาศาล เราใช้สิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยในการดำรงชีวิต เป็นปัจจัยในการประกอบอาชีพ ให้เป็นกฎเกณฑ์และแนวทางในการดำเนินวิถีชีวิตของสังคม ใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นแหล่งรวมของความสวยงามตามธรรมชาติ และเป็นแหล่งที่เราสามารถเรียนรู้และทำความเข้าใจในเรื่องธรรมชาติได้
มนุษย์เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของสิ่งแวดล้อมในชุมชนได้อาศัยและใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดล้อมในการอยู่รอดของชีวิต มนุษย์มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ดังนั้นการกระทำของมนุษย์จึงมีผลกระทบกระเทือนต่อสิ่งแวดล้อม ต่อความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อมที่เราเรียกกันว่าระบบนิเวศวิทยา ผลกระทบกระเทือนนั้นเป็นไปได้ทั้งในทางสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น หรือในทางทำลายให้เลวลง ผลกระทบกระเทือนนี้เกิดขึ้นทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม มีมากบ้างน้อยบ้าง
ตัวอย่างง่าย ๆ ที่ชี้ให้เห็นถึงการกระทำที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ถ้าเราต้องการรับประทานอาหาร เราต้องเอาพืช ผลไม้ จากในป่าหรือต้องใช้ที่ดินเพาะปลูก ถ้าเราต้องการสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ก็จำเป็นต้องตัดต้นไม้ในป่าเอามาสร้างบ้านจะทำให้จำนวนต้นไม้ ป่าไม้ ลดลง และถ้าลดลงมาก ๆ จะทำให้ธรรมชาติเสียความสมดุล ความสัมพันธ์ในระหว่างสิ่งแวดล้อมจะเปลี่ยนแปลงไป ฝนอาจจะตกน้อยจนทำให้แห้งแล้ง หรืออาจจะเกิดน้ำท่วมได้ เพราะไม่มีป่าไม้ที่ช่วยทำให้น้ำถูกดูดซึมซับอยู่ใต้ดิน ในขณะเดียวกันถ้าเราช่วยกันปลูกต้นไม้ ไม่ว่าจะต้นเล็กหรือต้นใหญ่ก็ตามจะช่วยทำให้สิ่งแวดล้อมในชุมชนของเราดีขึ้น จะมีต้นไม้เขียวชอุ่มมาก ป่าไม้ก็อุดมสมบูรณ์ ซึ่งก็มีส่วนทำให้ฝนตก ไม่แห้งแล้ง และยังช่วยไม่ให้เกิดน้ำท่วมได้ เพราะน้ำจะถูกดูดซึมไว้ในป่าและถูกปล่อยให้เราได้ใช้กันตลอดทั้งปี ด้วยวิถีทางธรรมชาติ ต้นไม้ยังช่วยทำให้อากาศบริสุทธิ์ด้วย เพราะในเวลากลางวันต้นไม้จะหายใจเอาก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ และคายก๊าซอ๊อกซิเจนออกมา ซึ่งเป็นก๊าซที่มนุษย์เราต้องการในการหายใจ นอกจากนี้ ต้นไม้ยังช่วยทำให้บ้านเมืองและชุมชนมีความสวยงามร่มเย็นน่าอยู่อาศัยมากขึ้น
ไม่ว่ามนุษย์จะอยู่ ณ ที่แห่งใด จะตั้งชุมชนใหญ่หรือเล็กก็ตาม ตราบใดที่มนุษย์ยังต้องอาศัยพึ่งพาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว ก็ย่อมจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสิ่งแวดล้อมได้ แม้ว่าจะมีมนุษย์อยู่เพียงคนเดียวในโลก สิ่งแวดล้อมก็ถูกทำลายได้เหมือนกัน เป็นต้นว่า มนุษย์เก็บเกี่ยวเอาพืชพันธุ์ไม้และล่าสัตว์เป็นอาหาร ตัดไม้ในป่าเอามาสร้างที่อยู่อาศัยและทำเชื้อเพลิงและมนุษย์ก็ยังขับถ่ายของเสียลงสู่สิ่งแวดล้อม แต่มนุษย์เพียงคนเดียวก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมไม่มากนัก แต่เมื่อใดก็ตามที่มีมนุษย์มากขึ้น ความต้องการใช้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็มากขึ้นตามไปด้วย เพราะแต่ละคนต่างก็มีส่วนในการทำลายสิ่งแวดล้อมคนละมากบ้างน้อยบ้าง เมื่อรวมทั้งหมดแล้วสิ่งแวดล้อมในชุมชนจะถูกทำลายอย่างมาก และปรากฎให้เห็นอย่างเด่นชัด
ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการและเทคโนโลยี ก็เป็นปัจจัยอีกตัวหนึ่งที่ช่วยทำให้สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วจากการที่เรามุ่งพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ขยายการก่อสร้าง ปัจจัยพื้นฐานแห่งการพัฒนา เช่น ถนน เขื่อน สนามบิน ท่าเรือ ฯลฯ เร่งผลิตสินค้าและบริการให้ทันกับความต้องการของประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละชุมชนจึงถูกนำมาใช้กับวิทยาการและเทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นจำนวนมาก จากขบวนการพัฒนาและการผลิตทำให้มีของเสียเหลือทิ้งออกมาในรูปต่าง ๆ เจือปนอยู่กับสิ่งแวดล้อมในชุมชน ความสมดุลในธรรมชาติก็เสียไป
เมื่อสิ่งแวดล้อมถูกทำลาย มีของเสียปะปนอยู่เป็นจำนวนมาก สิ่งแวดล้อมก็จะอยู่ในสภาพเสื่อมโทรมและอาจจะรุนแรงจนถึงขั้นเป็นพิษเป็นภัยได้ ผลกระทบจะมีมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับกิจกรรมและการขยายตัวของกิจกรรมนั้น ๆ ผลของสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมและเป็นพิษก็จะตกอยู่แก่มนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในชุมชน ปัญหาสิ่งแวดล้อมเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะผูกพันเชื่อมโยงกันเป็นลูกโซ่ เพราะสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตมีความสัมพันธ์กัน สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมและเป็นพิษจะมีผลโดยตรงต่อสุขภาพและอนามัยของมนุษย์ เพราะสภาพสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติจะเปลี่ยนแปลง ไม่เหมาะที่จะนำมาใช้ในการดำรงชีวิตอีกต่อไป นอกจากนี้ก็ยังมีผลกระทบกระเทือนต่อการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างไม่หยุดยั้ง และถ้าใช้อย่างไม่ระมัดระวังแล้ว ทรัพยากรธรรมชาติก็จะสูญสิ้นลงอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันนี้ มิได้เกิดขึ้นกับแม่น้ำ อากาศ สารเคมี และสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติอื่น ๆ เท่านั้น แต่ยังมีปัญหาสิ่งแวดล้อมที่อยู่ในรูปปัญหาทางสังคมอีก ทุกวันนี้เราจะเห็นได้ว่าลักษณะนิสัยใจคอ ความเป็นอยู่ของคนในชุมชน ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนบ้าน ความสามัคคีในชุมชนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก ทั้งนี้ อาจจะเนื่องมาจากปัญหาทางเศรษฐกิจภายในครอบครัว ความยากจน การเปลี่ยนแปลงในสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ การคมนาคม ติดต่อสื่อสารกับสังคมภายนอก ตลอดจนการรับเอาวัฒนธรรมและแนวความคิดจากที่อื่น ๆ มามาก ภายในชุมชนของเราจึงเปลี่ยนแปลงไป ความมีระเบียบ การรักษาหน้าที่ความรับผิดชอบ การปฏิบัติตามกฏเกณฑ์จึงหย่อนคลายลง
ปัญหาสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ นั้น ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขอย่างรีบด่วนและถูกวิธีแล้วปัญหาต่าง ๆ จะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในชุมชนนั้น จะต้องเลือกใช้หลักวิชาการที่ผสมผสานได้กับลักษณะนิสัย ทัศนคติ ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนในชุมชนด้วย จะต้องเป็นที่ยอมรับและไม่ถูกโต้แย้งจากคนในชุมชนนั้น ๆ
สิ่งแวดล้อมบางอย่างที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ คนทุกคนในชุมชนเป็นเจ้าของและมีสิทธิที่จะใช้ได้ เราทุกคนก็ควรที่จะมีหน้าที่ดูแลรักษาและแก้ไขให้สภาพแวดล้อมในชุมชนดีขึ้น แม้ว่ารัฐบาลจะมีหน้าที่โดยตรงในการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมก็ตาม แต่การดำเนินงานอาจมีอุปสรรคบ้าง ล่าช้าบ้าง ถ้าคนในชุมชนไม่ให้ความร่วมมือช่วยเหลือ ทุกคนควรจะถือว่าสิ่งแวดล้อมทั้งหลายเป็นทรัพย์สมบัติของชาติ และถือเอาเป็นความรับผิดชอบและหน้าที่ของตัวเองที่มีต่อชุมนุม ในอันที่จะอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้อยู่ในสภาพที่ดีมีคุณภาพ เพื่อคนทุกคนในชุมชน เพื่อส่วนรวม เพื่อตัวเอง และครอบครัว และเพื่ออนุชนรุ่นหลังที่จะได้มีโอกาสพึ่งพาอาศัยและใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดล้อมที่ดีต่อไปในวันข้างหน้า
ถ้าสมาชิกในชุมชนทุกคนสำนึกในหน้าที่ของตนเองที่มีต่อสิ่งแวดล้อมของชุมชน ยอมเสียสละเล็ก ๆ น้อย ๆ คำนึงถึงแต่ประโยชน์ของชุมชนส่วนรวมเป็นข้อใหญ่แล้ว อีกไม่ช้าไม่นานภายในชุมชนก็จะมีแต่สภาพแวดล้อมที่ดี สภาพสิ่งแวดล้อมที่จะทำให้คนทุกคนดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยความสุข ความปลอดภัยในชีวิต มีสุขภาพอนามัยสมบูรณ์แข็งแรง ชุมชนก็จะมีแต่สมาชิกที่ดีมีคุณภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศชาติตลอดไป